>>>Lampang Soccer : ความเคลื่อนไหววงการฟุตบอลลำปาง<<< จุดเริ่มต้นของชุมชนฟุตบอลลำปาง ข่าวสารในแวดวง ทางฝันสู่ไทยพรีเมียร์ลีก ติดตามได้ที่นี่ +++ รักลำปาง...ดูบอลลำปาง : สานฝันสู่ไทยพรีเมียร์ลีก +++>>>แชมป์ล่าสุดในลำปาง<<< ฟุตซอล เทศบาลนครลำปาง ประจำปี 2552 ทีมชนะเลิศ รุ่นอาุยุไม่เกิน 18 ปี ได้แก่ ทีมมะพร้าวหวาน B นักกีฬาดีเด่นคือ นายภานุพงศ์ กิวงค์พรม รุ่นประชาชนชายทั่วไป (อายุ 40 ปีขึ้นไป) ได้แก่ ทีมพรานเหนือ รุ่นประชาชนชายทั่วไป ได้แก่ทีม มะพร้าวหวาน C นักกีฬาดีเด่นคือ นายณัฐภัทร ไชยจักร จากทีมมะพร้าวหวาน+++ฟุตบอล 11 คน เทศบาลนครลำปาง ประจำปี 2552 (15 มีนา-3 พฤษภา 52) ทีมชนะเลิศ รุ่นอาุยุไม่เกิน 18 ปี ได้แก่ ทีมโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย นักกีฬาดีเด่นได้แก่ นายพงศกร ยาลังกา จากทีมโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย รุ่นประชาชนชายทั่วไป (อายุ 40 ปีขึ้นไป) ได้แก่ ทีมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ นักกีฬาดีเด่นคือ นายสมชาย ติวะตันสกุล จากทีมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ รุ่นประชาชนชายทั่วไป ได้แก่ ทีมชมรมกีฬารถไฟนครลำปาง นักกีฬาดีเด่นได้แก่ นายอาุภาพ จรเทศ จาก ทีมชมรมกีฬารถไฟนครลำปาง Lampang Soccer

คุย+แลกเปลี่ยน+แจ้งข่าววงการฟุตบอลลำปางได้ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ราชมงคลแม่วัง จัดแข่งฟุตซอล รับสมัครถึง 7 สิงหานี้

ข่าวฟุตบอลลำปางมาฝากครับ

คณะบริหารธุรกิจและศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปาง ได้จัดโครงการบริการวิชาการแก่ชุมชน โดยได้จัด การแข่งขันกีฬาฟุตซอลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปาง คัพ ครั้งที่ 1

เพื่อที่ส่งเสริมให้ กระตุ้น นักเรียน ศึกษา ประชาชนทั่วไปได้ออกำลังกายโดยการเล่นกีฬา การเสริมสร้างพลานามัย ฝึกตนให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เกิดความสามัคคีในหมู่คณะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอบายมุขและสิ่งเสพติดต่าง ๆ อีกทั้ง เพื่อให้ได้แสดงออกถึงความสามารถในทางที่ถูกต้องด้วยการเล่นกีฬาและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

ประเภทในการจัดการแข่งขัน
รุ่นประชาชนชายทั่วไป จำนวน 16 ทีม

วันรับสมัคร
โดยทำการสมัคร 20 กรกฎาคม – 7 สิงหาคม 2552 ที่ ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปาง โทร. 054-342547-8 โทรสาร. 054-342549 ในเวลาราชการ หรือติดต่อที่ อาจารย์วิรยะ เดชแสง 086-5867264

ประชุมผู้ตัดการทีมและจับฉลาก
ในวันที่ 8 สิงหาคม 2552 เวลา 13.00 น. ห้อง ส.1

วันแข่งขัน
เริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม – 2 กันยายน

สถานที่แข่งขัน
อาคารกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปาง

รางวัลการแข่งขัน
รุ่นประชาชนชายทั่วไป
ชนะเลิศ
ได้รับถ้วยรางวัล เกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 8,000 บาท
รองชนะเลิศ
ได้รับถ้วยรางวัล เกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท
อันดับที่ 3
ได้รับถ้วยรางวัล เกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท
อันดับที่ 4
ได้รับเงินรางวัลทีม 1,000.- บาท

ติดต่อที่อาจารย์วิรยะ เดชแสง
054-342547-8 ต่อ 166
หรือ 086-5867264
.................................
สานฝันบอลลำปาง
พฤหัส 30
กรกฎา 52

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

บรรยากาศล่ารายชื่อสนับสนุนตั้งสโมสรฟุตบอลลำปาง ณ สวนเขลางค์ฯ






เมื่อวาน วันอังคารที่ 28 กรกฎา เวลาประมาณ 18.00-20.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าสวนสาธารณะเขลางค์นคร พวกเราได้ไปตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งสโมสรฟุตบอลลำปาง ได้มา 54 รายชื่อ และได้รับความสนใจพอสมควร

บางคนที่สนใจเสนอไอเดียที่มีคุณค่าให้เราเป็นอย่างดี บางคนก็ได้จุดประกายบางให้เรา
ขอขอบคุณทุกๆท่านมา ณ ที่นี้

หากเป็นไปได้เราจะไปเจอกันอีกที่สวนเขลางค์ฯ

สานฝันบอลลำปาง
พุธ 29
กรกฎา 52

เสียงเรียกร้องจากแฟนบอลลำปางถึงอบจ.ลำปาง


ภาพพิธีปิดฟุตซอลอบจ.ลำปางโอเพ่น

ไปสำรวจ ด้อมๆมองในเว็บบอร์ดของอบจ.มีคนตั้งกระูทู้ไว้ และเราก็เคยเอามาลงแล้วบางส่วนใน
http://lampangsoccer.blogspot.com/2009/07/blog-post.html ตอนนี้ก็ัยังมีไอเดียและความคิดอื่นๆเข้ามาอีกครับ ผมจะลองประมวลดูตั้งแต่แรก และเลือกมาบางส่วนที่น่าสนใจนะครับ

อยากให้ อบจ.ลำปาง เข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลของจังหวัด
โดย คนรักลำปาง
เมื่อ อาทิตย์ 21 มิ.ย. 2009 4:42 am
http://www.lp-pao.go.th/webboard/viewtopic.php?f=2&t=100

อยากให้ อบจ.ลำปาง เข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลของจังหวัดในการส่งเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล division 2 ในฤดูกาลหน้าเพราะว่าผมเห็นจังหวัดอื่นๆ กระตือรือร้นในเรื่องนี้ อย่างเช่นจังหวัดแพร่ ทางอบจ.แพร่เข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลของจังหวัดทั้งที่ จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่เล็กกว่าจังหวัดลำปาง แต่เค้ามีศักยภาพที่จะสนับสนุนทีมของจังหวัด

ถ้ามองการที่มีทีมของจังหวัดในการแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศ จะได้ประโยชน์กับจังหวัดมากแค่ไหน ในด้านชื่อเสียงจะมีคนรู้จักลำปางมากขึ้น

ในด้านการท่องเที่ยว ในการแข่งขันแต่ละนัดที่ลำปางเป็นเจ้าบ้าน กองเชียร์ของทีมที่มาแข่งขันกับจังหวัดลำปาง ได้ถือโอกาสมาท่องเที่ยวไปในตัวได้เงินเข้าสู่จังหวัดไม่มากก็น้อยแต่ดีกว่าไม่ได้ ดีกว่ามีอยู่แล้วหมดไป
ในด้านสังคมทำให้เยาวชนหันมาสนใจมากขึ้นแทนที่จะใช้เวลาว่างไปเที่ยวเตร่กลับใชเวลาว่างนี้ไปฝึกซ้อมเพื่อจะให้ได้เป็นตัวแทนของจังหวัด นักกีฬาฟุตบอลของลำปางมีความสามารถไม่แพ้จังหวัดใด

ในฐานะที่ผมได้คลุกคลีอยู่กับฟุตบอลของจังหวัดมานาน 1 เสียงเล็ก ๆ ของผมหวังว่าท่านผู้บริหารคงได้อ่านบ้างผมขอฝากอนาคตเยาวชนลำปางไว้ในมือท่าน ท่านจะส่งิม[ส่งเสริม?-Lampang Soccer]หรือทำลายก็อยู่ที่ตัวท่าน /ขอบคุณล่วงหน้าครับ

คนรักลำปาง
...................
2.
ตอบโดย weerachai_klamchaidee2519@hotmail.com
เมื่อ พุธ 01 ก.ค. 2009 8:41 am

เรียน ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง

การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลอาชีพภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ถือเป็นภารกิจด้านหนึ่งของ อบจ.ที่จะให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลของจังหวัดลำปางให้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขัน สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดลำปาง ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับนักกีฬาทั้งของท้องถิ่นเองและทั่วไป

ทำให้ อบจ.ลำปางได้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป เป็นการสร้างกระแสวงการฟุตบอลของจังหวัดลำปางให้ดียิ่งขึ้นไป ประชาชนได้ใช้เวลาว่างเข้ามานั่งชม ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน การทำทีมมิใช่ยากเพียงแต่ท่านผู้บริหารให้การสนับสนุน พวกเราก็พร้อมที่จะสู้และทำเพื่อจังหวัดลำปาง

เพราะถ้าไม่เริ่มทำ จังหวัดลำปางก็จะล้าหลังจังหวัดอื่นนะครับ

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีบุคลากร นักกีฬา และทีมงาน แต่ไม่ได้รับโอกาสในการทำงาน
ยินดีรับใช้ อบจ.ลำปาง เพื่อส่งเสริมกีฬาฟุตบอลของจังหวัดให้เจริญก้าวหน้า พร้อมสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดลำปาง หากเริ่มคิดทำยังมีเวลาเตรียมตัว เตรียมทีม และหาสามารถหาสปอนเซอร์สนับสนุนได้ หากได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารของ อบจ.ลำปาง คงทำให้วงการกีฬาฟุตบอลจังหวัดลำปางก้าวกน้าอย่างแน่นอน

จาก.....คนรักฟุตบอลที่มีความพร้อม แต่ยังไม่ได้รับโอกาส..

อยากช่วยให้วงการฟุตบอลลำปางเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป

ต่อไปชาวลำปางจะติดตามชมกันทุกวันเสาร์ -อาทิตย์เหมือนกิจวัตรอย่างหนึ่ง สามารถสร้างแฟนคลับได้เป็นอย่างดี ผมมีความพร้อมที่จะทำงานนี้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนครับ เรียกสัมภาษณ์ได้ที่ 08-xxxx-xxxx ครับ

ขอบคุณครับ
weerachai_klamchaidee2519@hotmail.com
..............
3.
ตอบโดย คนรักลำปาง เมื่อ
จันทร์ 20 ก.ค. 2009 8:39 am

ต้องขอขอบคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้า ผมดีใจมากที่ทุกท่านเห็นว่าเพียง 1 เสียงของผมทำให้คนลำปางตื่นตัวที่จะทำให้ฟุตบอลลำปางกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง
..............
4.
ตอบโดย คนรักลำปาง
เมื่อ จันทร์ 20 ก.ค. 2009 9:12 am

ขอบคุณอีกครั้งกับ http://lampangsoccer.blogspot.com/ ที่เริ่มสร้างกระแสฟุตบอลลำปาง fever <แม้จะเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ ก็ตาม> ครั้งนึงผมเคยตั้งกระทู้แบบนี้ไปยังเว็บไซต์ของจังหวัดลำปางแล้วเรื่องก็เงียบหายไป แต่หลังจากนั้นผมได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตซอล อบจ.คัพ แล้วมีเว็บไซต์ของทางอบจ.ลำปาง ผมก็เลยลองตั้งกระทู้ "อยากให้ อบจ.ลำปาง เข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลของจังหวัด" ที่เว็บบอร์ดของ อบจ.

ตอนแรกผมไม่ได้หวังอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะที่ตั้งกระทู้เพื่อผู้ที่ได้อ่านจะได้ปลุกจิตสำนึกรักบ้านเกิดขึ้นมาบ้างก็เท่านั้น แต่ไม่นึกว่าจะมีคนที่มีแนวความคิดเดียวกันเข้ามาทำอย่างจริงจัง ถึงตอนแรกนี้เราเริ่มทำงานจากจุดเล็ก ๆ คือเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับเกรียติประวัติฟุตบอลของลำปางในอดีต เพื่อให้คนลำปางได้รู้ได้เห็นว่าด้านกีฬาคนลำปางก็ไม่เป็นรองใคร คนลำปางก็เคยติดทีมชาติกับเขาเหมือนกัน

ผมใคร่ขอนำเสนอการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะจัดตั้งทีมของจังหวัดออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้
[1] เราต้องเน้นในด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนชาวลำปางได้รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งทีมฟุตบอลของจังหวัดเพื่ออะไรเป็นอันดับแรก

[2] เราต้องทำการเก็บข้อมูลนักเตะคัดเลือกนักกีฬาเพื่อที่จะทำการฝึกซ้อมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วส่งแข่งขันในรายการใหญ่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ทีมลำปางไปในตัวว่าทีมลำปางพร้อมแล้วนะสำหรับลีกดิวิชั่น 2 ในฤดูกาลหน้า<ถ้าเป็นไปได้> ส่วนนักกีฬานั้นเราจะเอามาจากที่ไหน เราต้องจัดตั้งทีมงานในการเก็บข้อมูลนักเตะในรายการต่างๆ ที่จัดแข่งขันในจังหวัดลำปาง เริ่มจากรายการใกล้ ๆ นี้คือรายการไทคัพ คัดเลือกตั้วแทนอำเภอ ท่านก็จะได้รู้ว่าผู้เล่นของแต่ละอำเภอก็มีตัวเด่น ๆ อยู่ ต้องไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก นักเตะทุกคนมีสิทธิในการที่จะเล่นให้ในทีมของจังหวัด เรื่องนักเตะผมขอเน้นเด็กในจังหวัดครับเพราะง่ายต่อการเรียกฝึกซ้อม

[3] สิ่งสำคัญประการที่ 3 ที่ลืมไม่ได้เลยคือเรื่องผู้สนับสนุน เราความ[ควร?-Lampang Soccer]จัดทำโครงการเพื่อจะได้นำเสนอให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เข้ามาร่วมกันสนับสนุนทีมของจังหวัด เพราะผมเห็นว่าในจังหวัดลำปางมีหน่าวยงานรัฐวิสาหกิจและและเอกชนใหญ่ ๆ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคิดว่าหน่วยงานเหล่านี้คงเห็นความสำคัญบ้างไม่มากก็น้อย

ผมพิมพ์มาเยอะแล้วคงขีเกียจอ่านหากมีอะไรที่จะพูดคุยกันก็เมล์มาได้ครับ
lampang-center@hotmail.com หรือโทร 08-xxxx-xxxx ครับ
....................
5.
ตอบโดย ดา
เมื่อ พุธ 22 ก.ค. 2009 12:35 am

อยากให้ ไป ดู อ.งาว นักเตะฝีท้าวดีๆมีเยอะ มาก ครับ ถ้าไปแข่งคัดเลือก คอยดูปีนี้ครับ ฝีท้าวเป็นตัวแทนจังหวัดได้เลย
....................
6.
โดย เด็กอยากเห็นบอลลำปางพัฒนา
เมื่อ พุธ 22 ก.ค. 2009 2:41 pm

ผมอยากให้สนับสนุนนะคับเพราะทุกวันนี้ผมดูไทยลีกผมอยากเห็นลำปางขึ้นมาเล่นไทยลีกบ้างเล่นลีกภูมิภาคก็ดีจะได้ไปเชียร์ลำปางเป็นจังหวัดที่ใหญ่ในภาคเหนือนะคับ

ผมว่าคนลำปางสามารถทำทีมฟุตบอลส่งลีกภูมิภาคได้แน่ ผมไม่อยากอาย ตาก แพร่ ที่เป็นจังหวัดเล็กๆๆสามารถสร้างทีมส่งไทยลีกได้ไม่อยากอายจังหวัดเล็กๆๆนะคับผมเชื่อ หาก อบจ ลำปางสนับสนุนทีมฟุตบอลลำปางคุณจะได้คะแนนจากคนลำปางอีกมากมายเลยคับ
....................
เราๆ ท่านๆ เห็นกันเป็นอย่างไรบ้างครับ...
.......................
สานฝันบอลลำปาง
อังคาร 28
กรกฎา 52

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กรณีศึกษา ดิวิชั่น2 : พลพรรคยักษ์แสด...เมื่อยักษ์หลับที่ชื่ออุดรกำลังจะตื่น!!



รับสมัครแฟนคลับสโมสร ค่าสมัคร 350 บาท รับเสื้อแข่ง 1 ตัว ความพยายามในการจะหาฐานสมาชิกและผู้สนับสนุนทีม


บรรยากาศหน้าสนามก่อนการแข่งขัน


นักข่าวจากเคเบิ้ลท้องถิ่น UTV


กิจกรรมตอบคำถามในวันแข่งขัน สร้างความมีส่วนร่วมกับผู้ชม


ป้ายสปอนเซอร์ของธุรกิจในท้องถิ่น ป้ายละประมาณ 10,000 บาท
ข้อมูลจาก อ.หนุ่ย อุดรธานีFC


บนเสื้อแข่งขัน และเสื้อซ้อมก็มีสัญลักษณ์ของสปอนเซอร์หลักผู้สนับสนุนทีม สนับสนุนรายละแสนบาทขึ้นไป
ข้อมูลจาก อ.หนุ่ย อุดรธานีFC


บรรยากาศการแข่งขันกับมุกดาหารในบ้าน


พลพรรคยักษ์แสด


กิจกรรมให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยทีมโรงพยาบาลสปอนเซอร์หลักผู้สนับสนุนทีม

ตัวอย่างอีกทีมในระดับดิวิชั่น2 คราวนี้เป็นยักษ์อีสานที่กำลังจะตื่นที่ชื่อ อุดรธานีFC มีสโลแกนเท่ห์ของอุดรฯที่ว่า "บอลไทยจะไปบอลโลก...ต้องเริ่มที่บ้านเรา...อุดรธานี"

แม้จะเคยได้ยินมาว่าอุดรธานีFC เจ้าของฉายา "ยักษ์แสด" จะเคยล้มลุกคลุกคลานถึงขนาดขาดทุนแทบล้มละลายมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถึงวันนี้เรียกได้ว่า เป็นทีมในระดับดิวิชั่น 2 ที่พยายามยกระดับมาตรฐานของตนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เห็นได้จาก
ผลการประเมินการทำงานของสโมสรฟุตบอลอุดรธานี มีผลงานการประเมินออกมาที่ดีมาก ในเรื่องการจัดการแข่งขัน ที่มีสนามเหย้าได้มาตรฐาน จุแฟนบอลได้เกิน 3,000 คน มีการจัดเก็บค่าผ่านประตูเข้าชมที่อัฒจรรย์ทั้ง 2 ฝั่ง มีแฟนบอลเข้าชมกันหนาตาทุกคนจ่ายค่าผ่านประตูไม่มีการเปิดให้เข้าสนามดูฟรี การเก็บค่าผ่านประตูที่เก็บได้เป็นจำนวนที่มาก มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมบุคคลที่ไม่มี ไอดีการ์ดไม่สามารถผ่านลงไปในสนามช่วงเวลาที่ทำการแข่งขันได้เลย

นอกจากนี้ สโมสรฟุตบอลอุดรธานี ยังมีอะคาเดมี่ เป็นของตนเอง ทำการฝึกนักเตะตั้งแต่ระดับยุวชน (คลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=udonfc&id=55 )

มีรูปแบบการบริหารงานที่มีโครงสร้างชัดเจน มีรายได้จากสปอนเซอร์หลักภายในจังหวัด ทำให้เป็นทีมฟุตบอลจากส่วนภูมิภาคเพียงทีมเดียวที่ไม่ต้องอาศัยงบประมาณจาก องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะเสนอให้ทีมสโมสรฟุตบอลอุดรธานี เป็นต้นแบบ ของสโมสรฟุตบอลที่เริ่มต้นในการเล่นฟุตบอลลีก ในปีแรก ที่ต้องหารายได้เพื่อเลี้ยงตนเอง โดยไม่อาศัยงบประมาณจากทางราชการ

ดูรายละเอียด ได้ที่ http://www.udonthanifc.com/forum/index.php?topic=188.0
[ที่มาข่าว http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=60318.0;topicseen 20 กรกฎาคม 2552]

อย่างที่บอกมาแล้วว่า อุดรฯมิได้พึ่งทำทีมแล้วประสบความสำเร็จแต่เกิดจากประสบการณ์ลองผิดลองถูก ถึงแม้จะเคยย่ำแย่แต่ตอนนี้กลายมาเป็นทีมหัวแถวที่จะถูกยกให้เป็นทีมต้นแบบของลีกภูมิภาคไปแล้ว

ถึงเวลาของลำปางแล้วครับ ที่จะต้องเริ่มก้าวเดิน พวกเราจะไปไหนไม่ได้เลย ถ้าหากยังไม่เข้าไปสู่ระบบสโมสรฟุตบอลอาชีพ
...............................
สานฝันบอลลำปาง
อังคาร 28
กรกฎา 52

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พิ้งค์แพนเตอร์-เสือสามย่าน กับ การรีแบรนดิ้งของจุฬายูไนเต็ด



จากทีมที่เคยเชยๆ แล้วดูมีระยะห่างที่ไกลกับคนดู รู้สึกว่า ยักษ์ชมพูจะตื่นขึ้นอีกราย ด้วยการรีแบรนดิ้งทั้งฉายา มาเป็น "เสือสามย่าน" ขณะเดียวกันก็มีการเปิดตัว "พิ้งค์แพนเตอร์" (ข่าวเขียนว่า "พิงค์แพนเธอร์ส") เชียร์ลีดเดอร์สาวจากจุฬา เพื่อยั่วน้ำลาย เอ๊ย เพื่อสร้างสีสัน และดึงดูดคนเข้าเชียร์ทีมสโมสรอีกด้วย

ลองอ่านข่าวดูครับ
ยลโฉม "พิงค์ แพนเธอร์ส" เชียร์ลีดเดอร์จุฬาฯ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2552 11:58 น.
http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000083740

จุฬา ยูไนเต็ด ทีมอันดับสุดท้ายของศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เลกแรก ไม่เพียงแต่จะดันแคมเปญ "JUMP : เสือสามย่านก้าวกระโจน" เพื่อเป้าหมายรอดตกชั้นและทะยานขึ้นสู่ 1 ใน 8 แล้วยังเปิดตัวทีมเชียร์ลีดเดอร์สาวสวย ซึ่งเป็นนิสิตปัจจุบันของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย

โดยผู้บริหารยืนยันว่าหากใครมาชมเพลงแข้งของ จุฬา ยูไนเต็ด ในการเล่นเป็นทีมเหย้าที่สนามหญ้าเทียม แถวสามย่าน จะได้ยลความงามของเหล่า "พิงค์ แพนเธอร์ส" กลุ่มนี้อย่างแน่นอน ซึ่ง MGR Sport นำภาพมาให้แฟนๆ ได้ชมกันก่อนไปเจอตัวจริงได้ที่สังเวียนแข้งในแมตช์แรกของเลกสองที่จะต้อน รับ สมุทรสงคราม เอฟซี วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคมนี้ เวลา 16.00 น.



.............................
สานฝันบอลลำปาง
ศุกร์ 24
กรกฎา 52

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ข่าวลีกบอลไทย : ศึกลีกภูมิภาคอีก 5 ปีไม่พึ่งรัฐ


ที่มาภาพ : http://www.fat.or.th/web/news_detail.php?nid=01233

ศึกลีกภูมิภาคอีก 5 ปีไม่พึ่งรัฐ
วันอังคาร ที่ 21 กรกฎาคม 2552 เวลา 8:50 น
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=282&contentID=9406

'วิมล'มั่นใจสิทธิประโยชน์กระฉูดเตรียมประสาน ผวจ.ตั้งศูนย์ถาวร


นายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมฟุตบอลฯได้จัดการแข่งขันฟุตบอลลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โดยเปิด ให้ทีมจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศสมัครเข้าแข่งขัน โดยแบ่งเป็น 5 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ 11 ทีม, ภาคอีสาน 12 ทีม, ภาคกลางและตะวันออก 12 ทีม, ภาคใต้ 8 ทีม, กรุงเทพฯและปริมณฑล 10 ทีม รวมทั้งสิ้น 53 ทีม มาแข่งขันเหย้า-เยือน ในรอบสุดท้าย เพื่อคัดเอาเพียง 3 ทีมเลื่อนชั้นไปเล่น “ลีก ดิวิชั่น 1”

จากการที่ตนได้สำรวจการแข่งขันทุก ๆ ภาค ปรากฏว่ากระแสความนิยมของแฟนบอลในต่างจังหวัดตอบรับดีเกินคาด แต่ละสนามมีแฟนบอลแห่ไปชมจำนวนมาก ทำให้เชื่อได้ว่า ภายในระยะเวลา 5 ปี ฟุตบอลลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 จะ สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง โดยไม่ต้อง พึ่งภาครัฐ ซึ่งในปัจจุบันการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้การสนับสนุนงบประมาณอยู่

อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวต่อไปว่า ตนมั่นใจว่าในอนาคตฟุตบอลลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 จะยืนได้ด้วยระบบสิทธิประโยชน์และการตลาด แต่ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าให้ช่วยพิจารณาการลดหย่อนภาษีให้แก่บริษัทเอกชน ที่นำงบประมาณมาสนับสนุนกีฬาของชาติ ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนแห่เข้ามาสนับสนุนวงการกีฬาอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 น่าจะมีผู้เข้ามาสนับสนุนเป็นจำนวนมาก และสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคง

นายวิมล กล่าวอีกว่า สำหรับแผนงาน ในอนาคต ตนได้ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตั้งเป็นศูนย์ภาคในทุกภูมิภาค เพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฟุตบอลภูมิภาคอย่างถาวร รวมทั้งเป็นสถานที่ฝึกอบรมให้แก่บุคลากรของทีมฟุตบอลภูมิภาคได้มีความรู้เรื่องฟุตบอลอาชีพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น อบรมระดับผู้บริหาร, การตลาด, การประชาสัมพันธ์, การบริหารจัด การ, การอบรมผู้ฝึกสอน, ผู้ควบคุมการแข่งขัน, ผู้ตัดสิน ตลอดจนการบริหารจัดการในภาครวม ซึ่งเป็นการพัฒนาตั้งแต่ระดับรากหญ้าเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลของไทย ตามนโยบาย “วิชั่น ไทย แลนด์” ของนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย.
....................................
สานฝันบอลลำปาง
พุธ 22
กรกฎา 52

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ถึงคิวจังหวัดตรัง ร่ำร้องหาทีมบอลอาชีพ

เป็ด หนุนนักบอลเมืองตรัง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 2 พฤษภาคม 2552 20:53


ป้ายเขียนตัวโตๆข้างตึกว่า ตรัง เอฟ.ซี
ที่มาภาพ : คุณ
5 Star
http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=60330.msg790351;topicseen#new


ลายเซ็นต์ที่คนตรังทำขึ้นมา รำพันและโหยหาถึงทีมสโมสร
ที่มาภาพ :
::: ฅนเสพลูกหนัง :::
http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=60330.msg791086;topicseen#new


เป็ด เชิญยิ้ม ธัญญา โพธิ์วิจิตร
ที่มาภาพ : กรุงเทพธุรกิจ


บ่าววี วีรยุทธ นานช้า นักร้องลูกทุ่ง คนตรังที่ไปเล่นให้กับสโมสรสมุทรปราการ เอฟซี
ที่มาภาพ : http://thumbnail.igetweb.com/resize.php/bWQ1PWIzMGIxNTRkY2MxMWNjZWY1ODQzOTJiM2VkZWFhMGRlJndpZHRoPTE1MCZoZWlnaHQ9MTUwJnJvdW5kPW9uJnNoYWRvdz1vbiZweD1vZmYmaW1nPWh0dHAlM0ElMkYlMkZ3d3cuaWdldHdlYi5jb20lMkZ3d3clMkZwYWtuYW1mYW4lMkZuZXdzJTJGMTA0MjkwLmpwZyZkaXI9/104290.png

เป็ด เชิญยิ้ม จูงมือ บ่าววี พบผู้ว่าฯ เล็งตั้งสมาคมบอลอาชีพ หวังพัฒนาต่อเนื่องกีฬาบอลเมืองตรัง หลังซบเซาหลายปี ทั้งที่มีทีมชาติเพียบ

นายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม อดีตนายกสมาคมตลกแห่งประเทศไทย และกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย จ่าอากาศเอก วีรยุทธ นานช้า หรือ บ่าววี นักร้องลูกทุ่งเพื่อชีวิตชื่อดัง นายอภิชิต วิโณทัย ประธานชมรมฟุตบอลจังหวัดตรัง นายอรุณ ลายดี คณะกรรมการชมรมฟุตบอลจังหวัดตรัง เข้าพบนายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อหารือหลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการ ทีมฟุตบอล จังหวัดตรัง ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 38 หรือ ตรังเกมส์ ระหว่างวันที่ 9-19 กันยายน 2552

นายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนตรังโดยกำเนิด อยากจะเห็นทีมฟุตบอล ที่เป็นระดับอาชีพเกิดขึ้นใน จังหวัดตรัง เพราะหลายจังหวัดปัจจุบันมีการพัฒนาไปไกลมาก ทั้งที่ตรังในอดีตก็มีนักฟุตบอลระดับทีมชาติหลายคน แต่ช่วงหลังขาดความต่อเนื่อง ไม่มีบุคลที่ส่งเสริมและเข้ามาพัฒนาทีมฟุตบอลจังหวัดตรัง จึงเห็นว่าน่าจะใช้ช่วงการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ มาสร้างความตื่นตัวให้กับเยาวชน ที่จะพัฒนาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเอง และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดตรัง

ขณะที่ นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวยอมรับว่า การแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 38 หรือ ตรังเกมส์ มีปัญหาหลายด้าน ทั้งด้านงบประมาณสนับสนุน และนักกีฬา ที่จะเล่นให้กับจังหวัดตรัง
.......................................
ที่น่าสนใจก็คือ กระแสตอบรับจากแฟนบอลผู้รอคอย คุณ ::: ฅนเสพลูกหนัง ::: ดังนี้

จริงครับ รอมานานแล้ว ตอนนี้รอตรังซะนานน๊านนานจนเลือดManiaซึมเข้าตัวไปแล้วครับ เปิดเลก2เมื่อไหร่เจอกันอีกครั้งครับพี่ ยิงฟันยิ้ม ตอนนี้ขอทำงานเก็บเงินไปเชียร์บอลก่อนครับ

ว่าแต่ป้ายแบบนั้นเค้าติดเฉพาะแถว สามแยกหมี เหรอครับคุณ จขกท พอดีผมไม่ได้กลับตรังมาเกือบ3เดือนแล้วครับ

เมื่อ3เดือนก่อน สนามกีฬาเทศบาลยังรื้อพื้นยางอยู่เลยครับ สนามยังไม่ปูหญ้าใหม่เลย ไม่ทราบว่าตอนนี้ปรับปรุงไปถึงไหนแล้วครับ

ตอน นี้รอตรังเอฟซีเท่านั้นครับ มีคนทำทีมเมื่อไหร่ ผมจะเดินแจกโบรชัวร์ตรังเอฟซีทุกบ้านเลยครับ ขับรถโบกธงรอบสิริบรรณเลยครับ ใครจะว่าผมบ้าก็ช่างหัวมัน โกรธ

ที่มา : http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=60330.msg791086;topicseen#new
.......................................
สานฝันบอลลำปาง
จันทร์ 20
กรกฎา 52

เชียงราย...ทีมเหนือที่มาอย่างเหนือเมฆ


ภาพลายเซ็นต์
ที่มา คุณ Pee-nahn จาก http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=60320.msg790347;topicseen#new


หากเทียบกันกับทีมอื่นๆแล้ว สโมสรฟุตบอลเชียงราย ดูจะเป็นทีมที่เนื้อหอม และเริ่มบ่มเพาะชื่อเสียงอย่างจริงจัง การจัดการที่ให้ความสำคัญในด้านทีมฟุตบอล เงินทุน และการสร้างการมีส่วนร่วม ทีมเชียงรายริเริ่มและคิดไกลอย่างมีวิสัยทัศน์ ในเว็บบล็อกนี้ได้นำกรณีศึกษาและข่าวคราวของสโมสรเชียงรายนำมาแสดงหลายต่อหลายครั้งแล้ว คราวนี้ก็เช่นกัน

ผมจะนำกลับมาย้อนให้เห็นประวัติสโมสรฟุตบอลเชียงราย เส้นทางเดินของเชียงราย มิแน่นักว่าจะเผยเส้นทางเดินของสโมสรลำปางก็เป็นได้

ประวัติสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด
ที่มา : http://www.chiangraiunited.com/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=37&Itemid=67
ก่อตั้ง ค.ศ.2009
ชุดเหย้า เสื้อสีส้ม กางเกงส้ม
ชุดเยือน เสื้อสีขาว กางเกงขาว
สนาม สนามกีฬามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง , สนามกีฬากลาง จ.เชียงราย
ตราสัญลักษณ์สโมสร รูปกว่าง ชูตุง แทนสัญลักษณ์แห่งความเป็นนักสู้ ที่ชูตุงใจยคือธงแห่งชัยชนะ

ประธานสโมสร นายมิตติ ติยะไพรัช
ผู้จัดการทีม นายวันชัย ธนาบริบูรณ์
ผู้ฝึกสอน นายสฤษดิ์ วุฒิช่วย
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน นายธนา ทรัพยะโตษก
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน นายสุรพล ชูวงศ์

ความเป็นมา
เมื่อปี พ.ศ. 2542 มีการจัดฟุตบอลอาชีพนำร่อง โดยมีการสร้างลีกจังหวัดชื่อว่า โปรลีก โดยระยะแรกมี 12 ทีม (ยังไม่มีทีมเชียงราย) ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 ก็มีการสร้างโปรลีก 2 คัดทีมในระบบภูมิภาค เอาทีมแชมป์ภาคละ 2ทีม มาแข่งรอบสุดท้ายกับทีมจังหวัดภาคอื่นๆแชมป์และรองแชมป์ โปรลีก2 ได้สิทธิ์เลื่อนชั้น
ขึ้น โปรลีก1 นั่นคือจุดเริ่มต้นของทีมจังหวัดต่างๆ ทั้งประเทศ(ไม่นับ 12ทีม จังหวัดในโปรลีก1)

จากนั้นลีกของไทยก็มีการรวมทีมในโปรลีก กับไทยลีก ทีมที่อยู่ในโปรลีกส่วนใหญ่ก็กระจายไปตามลำดับคะแนนของปี พ.ศ. 2549 ในลีกต่างๆ ทั้งไทยลีก ดิวิชั่น1 และดิวิชั่น2 ซึ่งเชียงรายยังอยู่ในโปรลีกอยู่ต้องทำการคัดเลือกหาแชมป์กับรองแชมป์ โปรลีก ไปเล่น ดิวิชั่น2 ในปีต่อไป

จนมาถึงปี พ.ศ. 2552 มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง มีการยุบ ดิวิชั่น2 เดิม กับโปรลีก และได้สร้างลีกภูมิภาคมาแทนที่ เป็นการแข่งขันเฉพาะในภูมิภาค มีชื่อว่า ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2

สโมสรฟุตบอลจังหวัดเชียงราย ก็ได้มีการเปลี่ยนผู้บริหาร แยกตัวออกมาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย มาจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทตามข้อกำหนดของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย(AFC)แล้วย้ายสนามเหย้าจากสนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย มาเป็น สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และใช้ชื่อสโมสรอย่างเป็นทางการว่า สโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด

"นี่คือจุดเริ่มต้นของการฟุตบอลเล่นลีกครั้งแรก ของสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด"
***
ดูผลการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโปรวินเชียลลีก 2008 (ที่มีทั้งผลงานของลำปางและเชียงราย)ได้ที่นี่!!!
........................
และทุกวันนี้ ทีมสโมสรฟุตบอลเีชียงรายยูไนเต็ดกำลังดีวันดีขึ้น นั่นหมายถึงมิใช่ผลการแข่งขันฟุตบอลเท่านั้น ความพยายามของพวกเขายังรวมไปถึงการตลาด ด้านล่างนี้เป็นสถิติการ

วิวัฒนาการการจำหน่ายตั๋ว และยอดขายของที่ระลึก
ที่มา : http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?PHPSESSID=d67bb5aa04d455a06369266e26081ed5&topic=59687.msg777642;topicseen#new

1.นัดพบ ชนะ พิจิตร 4-1
19 เม.ย 52
ขายตั๋วได้ 150 ใบ เป็นเงิน 3,000 บ. ขายของที่ระลึก 0 บ.

2.นัดพบ ชนะ อุตรดิตถ์ 3-0
2 พ.ค 52
ขายตั๋วได้ 250 ใบ เป็นเงิน 5,000 บ. ขายของที่ระลึก 0 บ.

3.นัดพบ ชนะ เพชรบูรณ์ 3-2
31 พ.ค 52
ขายตั๋วได้ 450 ใบ เป็นเงิน 9,000 บ. ขายของที่ระลึก 18,000 บ

4.นัดพบ ชนะ กำแพงเพชร 1-0
13 มิ.ย 52
ขายตั๋วได้ 600 ใบ เป็นเงิน 12,000 บ. ขายของที่ระลึก 24,000 บ.

5.นัดพบ ชนะ ตาก 1-0
11 ก.ค 52
ขายตั๋วได้ 1100 ใบ เป็นเงิน 24,000 บ. ขายของที่ระลึก 29,000บ.
.........................
ที่สำคัญที่สุดก็คือสร้างความรับรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับคนในเชียงรายล่าสุดได้ไปเปิดบูธขายสินค้าของสโมสรและได้ประชาสัมพันธ์ให้คนในเมืองได้รับรู้

การประชาสัมพันธ์ของเชียงราย ยูไนเต็ด ที่ถนนคนเดิน จ.เชียงราย
http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=60320.msg790347;topicseen#new

เสาร์ที่ 18 ก.ค นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00น. ที่ลานถนนคนเดิน ทีมเชียงราย ยูไนเต็ด มีการตั้งจุดประชาสัมพันธ์ที่นั่น เพื่อ ประชาสัมพันธ์สโมสร โดยมีการแจกเอกสาร ข่าวคราวของเชียงราย ยูไนเต็ดCRUTD NEWS รวมไปถึงมีการจำหน่ายของที่ระลึกสโมสรทั้ง เสื้อแข่งแบบ เหย้า-เยือน กางเกง เสื้อยืดทั้งแบบสีส้ม,ขาว ผ้าพันคอ และสติ๊กเกอร์ ของสโมสร

ในงานมีการ รายงานผลสดๆในการแข่งขันของ เชียงราย ยูไนเต็ด นัดที่ไปเยือนเพชรบูรณ์ เอฟซี วันเสาร์ที่ 18 ก.ค อีกทั้งยังมีการรับสมาชิก The orange power ที่นั่นอีกด้วย

พิเศษสุดคือ การสัมภาษณ์ ซุเปอร์สตาร์ของทีมคือ หนุ่ม ฉัตรชัย นาควิจิตร นักเตะเชียงราย ยูไนเต็ด ดีกรี ทีมชาติไทยชุดเยาวชน ที่เคยผ่านสังกัดการเล่นกับทีมชื่อดังมากมาย อาทิ เมืองทอง ยูไนเต็ด , บีอีซี เทโรศาสน





.........................
สานฝันบอลลำปาง
จันทร์ 20
กรกฎา 52

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไทยลีกพาณิชย์ สู้วิกฤตเศรษฐกิจชาติ : ข้อคิดจากมติชน





มติชนรายวัน
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11449
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01spo11150752&sectionid=0114&day=2009-07-15

ในภาวะที่เศรษฐกิจประเทศกำลังถดถอย ร้อนจนรัฐบาลต้องออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น และระยะยาว แต่ธุรกิจกีฬาที่อยู่ในช่วงขาขึ้นสวนทางกับการค้าอื่นๆ หนึ่งในนั้นก็คือ ฟุตบอล ไทยลีก ที่ได้ปิดเลกแรกลงไปแล้วและกำลังจะเริ่มฟาดแข้งเลกสองในวันที่ 25 กรกฎาคม

ยืนยันได้จากยอดผู้ชมที่พัฒนาเป็นผู้เชียร์กีฬาอย่างเต็มตัว รวมถึงยอดจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ที่เฉลี่ยรวม 16 สโมสรมากขึ้นผิดหูผิดตา เกิดเงินสะพัดหมุนเวียนจากแต่ละสนามรวมกันหลายสิบล้านบาท ไม่เพียงแค่ในไทยพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ยังลุกลามไปยังดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 ด้วย โดย เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด สโมสรน้องใหม่เงินหนาได้เคยประกาศว่า มีรายได้เข้าทีมในนัดที่เปิดสนามธันเดอร์โดม รับ ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เกมเดียวถึง 5 แสนบาท

นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปทีมเมืองทองฯ "กิเลนผยอง" กล่าวว่า จบเลกแรกทีมมีรายได้จากค่าตั๋วประมาณ 2 ล้านบาท ของที่ระลึก 1.5 ล้านบาท โดยดำเนินงานด้านการตลาดภายใต้แนวคิด "ทีมของคุณ ฮีโร่ของคุณ" สินค้า หรือ จุดขายของทีมคือ ความแข็งแกร่ง และฟุตบอลอันมีเสน่ห์สวยงาม จะเห็นได้ว่าสโมสรพยายามจะคว้านักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ฝีเท้าดีมาร่วมตลอด ดาวดังในทีม อาทิ ธีรศิลป์ แดงดา, โซมาโฮโร่ ยาย่า ชาวไอวอรีโคสต์ มีลีลาการเล่นตื่นเต้นเร้าใจเรียกผู้ชมได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันมีการทำโปรโมชั่นเอาใจแฟนบอลควบคู่กันไป อาทิ การให้สิทธิพิเศษลดค่าตั๋ว 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับแฟนคลับ ขณะที่การประชาสัมพันธ์ จะทำผ่านเว็บไซต์ www.mtutd.tv รถกระจายเสียงในจังหวัดนนทบุรี หนังสือพิมพ์ และป้ายต่างๆ ซึ่งจากการจบอันดับ 3 ของตารางเลกแรก ทำให้การเจรจาติดต่อผู้สนับสนุนทีมง่ายขึ้น และน่าจะได้เพิ่ม 5-6 ล้านบาทเป็นทุนบริหารในเลกสอง จากเดิมต้นฤดูกาลสปอนเซอร์ 8 ราย ยอดสนับสนุนรวม 15 ล้านบาท

"กลยุทธ์ต่างๆ ที่ออกมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แฟนบอลเพิ่มมากขึ้นจากตอนอยู่ดิวิชั่น 1 หลายเท่าตัว และผมคิดว่าการลงทุนมหาศาลนี้ อีกไม่เกิน 3 ปีจะคุ้มทุน ในข้อแม้ที่ว่ากระแสยังต้องดีเหมือนเดิมนะ"

นายอรรณพ สิงห์โตทอง ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชลบุรี สโมสรที่มีกองเชียร์มากที่สุดทีมหนึ่ง กล่าวว่า มีรายได้จากตั๋วเข้าชมในบ้าน 8 นัดของเลกแรก 1.85 ล้านบาท สินค้าที่ระลึก 4.4 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เงินส่วนนี้ไม่ถือเป็นรายได้หลักของสโมสร เพราะยังเทียบไม่ได้กับเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ปีละ 20 ล้านบาท แต่ถึงอย่างไรก็ดีสิ้นปี ปิดงบฯสโมสรก็ไม่ได้มีกำไร เพียงแค่ใช้บริหารได้ต่อฤดูกาลเท่านั้น เพราะค่าใช้จ่ายมีเยอะทั้งการจัดการแข่งขัน หรือ การเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงเงินเดือนสวัสดิการนักเตะ แต่อนาคตการขายลิขสิทธิ์โทรทัศน์ผ่านทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงการซื้อ-ขายนักฟุตบอลจะเป็นสองช่องทางรายได้หลัก และจากกระแสแฟนบอลเวลานี้ที่จุดติดแล้ว เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปี ทุกสโมสรจะอยู่ได้ และมีผลกำไรที่งดงามปีละหลายล้านบาท

"กลเม็ดในการทำให้แฟนคลับรักสโมสรนานๆ ก็คือ ความจริงใจ เราต้องการให้พวกเขาเต็มร้อยทั้งผลงานในสนาม และนอกสนาม เช่น การบริการรถรับส่ง และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงทีมในทุกด้าน เพราะพวกเขาคือ ผู้เล่นคนที่ 12 ฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้สโมสรเดินหน้าต่อไปได้"

สองสโมสรข้างต้นเป็นตัวอย่างทีมที่บริหารงานด้านการตลาดได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่สำหรับ จุฬา ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ต้องปรับกระบวนใหม่ ด้วยเพราะผลสำรวจของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกระบุว่า มียอดผู้ชมเฉลี่ยน้อยที่สุด

นายมนตรี เครือวัลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม มองถึงสาเหตุสำคัญที่จำนวนผู้ชมน้อย ทั้งที่สนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งอยู่กลางกรุง ว่า เกิดจาก 1.สินค้า หมายถึง สโมสร ยังไม่ดึงดูดใจพอ ไม่มีดาวดัง ประกอบกับผลงานตกต่ำรั้งบ๊วย 2. ขาดการประชาสัมพันธ์ และเอาใจใส่กับคำว่า "แฟนคลับ" น้อยเกินไป จนถึงเวลานี้ยังไม่มีการผลิตของที่ระลึก แต่กำลังจะเริ่มแก้ไขปัญหาข้างต้นในเลกที่สอง โดยจะตั้งฝ่ายการตลาดขึ้นมาดูแล เพื่อหารายได้เข้าสโมสรเป็นการแบ่งเบาภาระชดเชยเงินทุนในการทำทีมปีนี้จำนวน 10 ล้านบาท

ด้าน โอสถสภา เอ็ม 150 ต้านพลังศรัทธาแฟนบอลไม่ไหว สนามธนารมณ์ ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ภายในหมู่บ้านธนารมณ์จำนวน 2 พันที่นั่งไม่สามารถรองรับกองเชียร์พลังเอ็มได้ โดยเตรียมย้ายไปใช้สนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ความจุ 5 พันที่นั่งเป็นสนามเหย้าแทนภายในเลกที่สองนี้ นายทวี อัมพรมหา เลขานุการทีม กล่าวว่า เสียดายเหมือนกันที่สร้างแฟนประจำได้แล้ว แต่ต้องย้ายสนามอีก แต่เป็นการย้ายเพื่ออนาคต เพราะสนามเดิมขยายไม่ได้อีกแล้ว โดยเหลือขั้นตอนการอนุมัติจากกรรมการบริหารสโมสร และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกก็จะย้ายทันที เบื้องต้นได้หารือกับ อบจ.สระบุรี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น "โอสถสภา-สระบุรี" ในอนาคต เพื่อซื้อใจ และสร้างกลุ่มแฟนคลับใหม่ๆ ในจังหวัด เชื่อว่าอีกไม่นานอัฒจันทร์เดิม จะต้องเพิ่มที่นั่งอีกแน่นอน

หากยังไม่ได้สัมผัส และร่วมเป็นกลไกในการขับเคลื่อนธุรกิจฟุตบอลไทยให้ก้าวสู่การเป็นลีกอาชีพอย่างเต็มตัว ด้วยการไปชมในสนาม หรือ ซื้อสินค้าที่ระลึก ขณะที่นักธุรกิจ หรือ องค์กรใหญ่ที่ยังไม่ได้ลงทุนกับลีกที่กำลังบูมในเวลานี้ ยังมีเลกสองรอให้แก้ตัวอยู่นะขอรับ!!

หน้า 30
.......................
สานฝันบอลลำปาง
ศุกร์ 17
กรกฎา 52

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วิเคราะห์เจาะลึกทีมดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ : มาดูกัน

เอามาฝากกันครับ ดู ศึกษาไว้ก่อน แล้วสักวันจะถึงคราวของทีมลำปางเราครับ
...........................
วิเคราะห์เจาะลึกทีมดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ

บทความโดย
ธีรยุทธ ต๊ะปินตา
อดีตนักฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อดีตโค้ชและนักเตะฟุตบอล ธอส.

เรียบเรียง โดย Wanmai
http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=58776.0


1.เชียงราย ยูไนเต็ด(ด้วงมหาภัย)
ลักษณะการทำทีม เหมือนเชลซี มีเงินทุนในการทำทีมพอๆกับทีมไทยลีก งบประมาณ ไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท เข้าตำราใช้เงินซื้อความสำเร็จ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสีย ผลระยะใกล้คือทีมประสบความสำเร็จ

แต่ระยะยาว ถ้าขาดเงินทุนวันไหน ก็จะกลับมายังจุดเดิม ซึ่งนักเตะที่เอามาล้วนแล้วประสบการณ์สูงเวทีไทยลีกและดิวิชั่น 1 เป็นหลัก เพดานเงินเดือน สูงสุด 45,000 บาท น้อยสุด 20,000 บาท บวกเบี้ยเลี้ยงแล้วเทียบกันแล้วพอๆกับทีมไทยลีก ซึ่งส่งผลต่อการแข็งขันในสนาม

ประสบการณ์ของนักเตะแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น วัชรกร ไกลถิ่น อดีตตัวปรีโอลิมปิคและสโมสรบีอีซี เทโรศาสน นเรศ สุขงาม อดีตทีมชาติและนักเตะสโมสรการท่าเรือไทย กอบเดช ชอบมโน กิตติศักดิ์ ใจหาญ อดีตนักเตะสโมสรโอสถสภา พรรษา มีสัตย์ธรรม อดีตทีมชาติและนักเตะสโมสรบีอีซี เทโรศาสน อาณัฐ อิทรชัย อดีตเยาวชนทีมชาชาติไทย

ประสบการณ์มีมากกว่าทุกทีม เอาตัวรอดได้สบาย จึงสามารถทำผลงานได้ดี ยังมีสถิติชนะรวดในเลกแรก และไม่น่าผิดพลาดอะไร แชมป์แน่นอนมีแค่ลุ้นว่าจะมีทีมไหนยัดเยียดความปราชัยได้หรือไม่ เท่านั้น


2.ชัยนาท เอฟซี(วิหคเจ้าพระยา)
เมื่อเทียบกับความพร้อมแล้วชัยนาทเป็นรองแค่เชียงราย เรื่องงบประมาณค่อนข้างดีได้ทุกภาคส่วนในจังหวัดช่วย ตัวผู้เล่นเน้นทรัพยากรภายในบ้าน ได้เสนาะ โล่งสว่าง อดีตทีมชาติไทยมาช่วยบัญชาเกม ทำให้ทีมดูดีขึ้นมาเลย แต่เนื่องจากประสบการณ์ในส่วนรวมแล้วยังน้อย บวกกับความเสมอต้นเสมอปลายยังไม่ดีจึงผลงานค่อนข้างขึ้นๆลงๆ บ้างแมทน่าชนะกับเสมอหรือแพ้ บางแมทต์กับดีซึ่งขาดความเสมอต้นเสมอปลาย บรรยากาศในบ้านแล้วถือว่าสุดยอด

แฟนบอลเริ่มมาสร้างสีสันได้ไม่น้อย เป็นทีมที่มีอนาคต คาดว่าไม่จะพลาดอันดับ 2 หรือ 3 แน่นอน


3.พิจิตร เอฟซี(พญาชาละวัน)
ป็นทีมที่คาดว่าน่าจะมีลุ้นก่อนเปิดฤดูกาลเพราะเตรียมทีมมานานหลายปี ส่วนใหญ่ตัวผู้เล่นในบ้าน เด็กชุดนี้เล่นกันมานาน เรื่องงบประมาณแล้วค่อนข้างพอใช้ได้ไม่ดีแต่ก็ไม่แย่ ถือว่าโดยภาครวมแล้วพอใช้ได้ ระบบทีมการเล่นถือว่าใช้ได้เป็นรองแค่เชียงราย อันดับที่คาดว่าไม่เกินความสามารถ 2 หรือ 3


4.เพชรบูรณ์ เอฟซี(มะขามหวาน)
ทีมนี้ว่าไปแล้วน่าจะมีลุ้นแชมป์เลยทีเดียว แต่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ไม่สามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้นักเตะได้ ส่วนใหญ่เป็นชุดแชมป์กีฬาแห่งชาติ ประสบการณ์พอใช้ได้ ว่ากันว่างานเดิน เงินก็ต้องมาถ้าเงินไม่มา งานก็ไม่เดิน ตัวเก่งๆก็เริ่มจะตีจาก อันดับที่คาด ไม่เกิน 5 ระบบดีอยู่แล้วแต่ขาดหัวใจ


5.พิษณุโลก เอฟซี(ขุนพลพระนเรศวร)
ยักษ์ใหญ่ภาคเหนือ หล่นมาจากดิวิชั่น 1 เพราะเงินซึ่งปัญหาใหญ่ของบอลอาชีพ ขาดเงินขุนพลก็ขาดใจ นักเตะประสบการณ์สูง เคยผ่านเวที ไทยลีกมาแล้วไม่ว่าจะเป็น ยุทธพงษ์ อินน้อย ภัคพลชนัน รัศมี สิทธิชัย ฐิติเดชณรงค์ ผ่านเวทีไทยลีกมาแล้ว ประคองทีมได้ รวมไปถึง เจนณรงค์ วงศ์น้อย ดาวซัลโวประจำทีม แต่เนื่องจากขาดอู่ข้าวอู่น้ำ ทหารก็ไม่มีเรี่ยวแรงผลงานก็แย่ลงไปด้วย อันดับที่คาดว่า ไม่น่าเกินอันดับ 7


6.เชียงใหม่ ยูไนเต็ด(ช้างพลาย)

เมืองใหญ่ใจน้อย ฟอร์มการเล่นไม่เหมือนในอดีต ทรัพยากรเยอะแต่เหมือนรวมกันไม่ได้ ขาดน้ำเลี้ยง ข่าวแว่วมาว่า นักเตะต้องหาเงินมาเล่นกันทุกนัด จริงแล้วถ้าเชียงใหม่เอาจริงทุ่มทุน ไทยลีกเรื่องเล็กเลย แต่วันนี้กลายเป็นยักษ์ล้ม ระบบการเล่นเหมือนเด็กยังขาดประสบการณ์ มีแต่ดาวยิงเสือเฒ่าอย่างบัณฑิต เพชรอำไพ คอยประคองน้อง ๆ ในทีม แต่ยังงัยยักษ์ก็เป็นยักษ์ถึงเวลาดุก็เอาเรื่อง อันดับที่คาดว่า ไม่น่าเกินอันดับ 7


7.สุโขทัย เอฟซี(เมืองเก่า)
เด็กจากสถาบันพละศึกษา วิทยาเขตสุโขทัยล้วนๆ ไม่มีตัวดังแต่เด็กเล่นกันเป็นทีม ไปได้สวยสำหรับปีแรก มาเรื่อยๆ ค่อยๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไป น้ำเลี้ยงเมืองเล็กก็สมกับทีม ไม่น้อยไม่มาก ดีกว่าไม่มี ระบบการเล่นเล่นกันเป็นทีม หัวใจดี ยิ่งนานวันสุโขทัยจะโตขึ้นเรื่อยๆ อันดับที่คาด ไม่เกินอันดับ 7


8.กำแพงเพชร เอฟซี(นักรบซากังราว)
เมืองกล้วยไข่ แต่ไม่กล้วย โค้ชเอาจริงจังกับเด็ก ระบบการเล่นไม่ธรรมดาเลย วิ่งไม่มีหมด ซ้อมกันมานานแต่ผลงานไม่สวยเท่าไร เพราะเด็กชุดนี้ส่วนใหญ่อายุน้อย จะเก๋าไปก็ยังงัยก็เด็ก วันไหนเล่นดีก็ดีใจหาย วันไหนทะเลละไปเลย ซึ่งเป็นทีมที่ขาดสมดุลในตัวผู้เล่น วันไหนถ้ากล้วยไข่ปรับจูนกันได้ น่าจะออกดอกออกผลให้ดู อันดับที่คาด ไม่น่าเกิน 8


9.อุตรดิตถ์ เอฟซี(ขุนศึกลูกพระยาพิชัย)
เมืองลับแล เขาเอาจริงเอาจังกับการแข่งขันในปีแรกมาก ระบบการเล่นใช้ได้ทีเดียว เด็กเล่นกันมานาน น้ำเลี้ยงพอใช้ได้ ผู้ใหญ่ในจังหวัดให้การสนับสนุน ผลงานดี บวกงานให้ทำ อันดับที่คาดไม่น่าเกินอันดับ 5


10.ตาก เอฟซี(ทหารเสือพระเจ้าตาก)
ทีมนี้มาแปลกกว่าทุกทีม นักเตะมาทั่วทิศ ด้วยใจรักของคนทำทีม ทำกันมานานมากหลายสิบปี นักเตะมากด้วยประสบการณ์หลายคน วีรพงษ์ ศรีเพ็ชร ฐานันดร ปะราชะ(อดีตทีมชาติ) ปิตพงษ์ แก้วแสนสาย อดีตนักเตะจากการท่าเรือนำทีม ธีรยูทร ต๊ะปินตา อดีตนักเตะสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทัศพล อินแก้ว อดีตนักเรียนไทยและนักเตะสโมสรธ.กรุงเทพ รุสดี อาแวสือแม อดีตนักเตะม.รัตนบัณฑิต ในดิวิชั่น 1 ผสมผสานกับนักเตะดาวรุ่งในจังหวัด

บวกกับโค้ชฝีมือดี อ. ฤทธิ์ ชมน้อย ผู้ปั้นนักเตะดัง ๆ หลายคน เช่น สุธี สุขสมกิจ คเณ จันทร์อิ๋ม อรรถกร เสนเพ็ง ครองพล ดาวเรือง จตุพงษ์ ทองสุข ฯลฯ ผู้ช่วยโค๊ชอย่าง ยุทธนา เลขาธนะ อดีตโค้ชการท่าเรือไทย และยังได้อดีตทีมชาติ คณิต อัฉราโยธิน มาเป็นผู้ช่วยโค๊ชอีกคนหนึ่ง

วิเคราะห์ตากเอฟซี
การบริหารทีม ตากเอฟซี เข้ามาสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพได้หลายปีแต่การบริหารยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก เป็นเพียงการบริหารแบบบอลเดินสาย ยังไม่มีการวางตัวในการบริหารที่เหมาะสมแต่การบริหารภายในเริ่มตื่นตัวบ้าง แล้ว แต่งบประมาณยังไม่มีมากนัก จึงทำทีมแบบไปแต่ละนัด ไม่มีการรวมตัวกันฝึกซ้อม ถ้าทีมตากได้มีการฝึกซ้อมรวมตัวกันจะเห็นทีมที่มีระบบการเล่นที่ดีขึ้น

ระบบการเล่น ได้ครูฤทธิ์ ชมน้อย มาเป็นกุนซือใหญ่ ขึ้นชื่ออยู่แล้วสำหรับกุนซือคนนี้ ฝีมือในการทำทีมถือว่าอยู่อันดับต้นๆของเมืองไทย แต่ ณ เวลานี้ยังไม่ได้สอนอย่างจริงจัง เนื่องจากผู้เล่นอยู่กันคนละทิศละทาง แว่วมาว่าเลกสองจะทำการเก็บตัวฝึกซ้อมแล้ว คาดกันว่า ตากเอฟซีจะมีผลงานที่ดีขึ้นแน่นอน

ตัวผู้เล่นในตากเอฟซี เลกแรกนั้นตัวของตากนั้นไม่ธรรมดา แต่เล่นไปเหมือนไม่มีแรง นักเตะไม่มีความสัมพันธ์กัน เพราะขาดการซ้อมร่วมกัน จึงผลงานไม่ดี ตัวเด่นๆของตากเอฟซี ฐานันดร ประราชะ วีรพงษ์ ศรีเพชร อดีตนักเตะการท่าเรือ ธีรยุทธ ต๊ะปินตา อดีตนักเตะจากการไฟฟ้า เป็นแกนหลัก เมื่อเทียบกับทีมอื่นแล้วดูดีแต่ยังไม่มีราคา เพราะต่างคนต่างเล่น ขาดทีมเวิร์ก ถ้าได้ซ้อมมาดูกันใหม่สำหรับตากเอฟซี

ปัญหาอุปสรรคของตากเอฟซีเวลานี้ ขาดเงินขาดงบ ขาดการเหลี่ยวแลจากองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัด ทำให้ทีมไม่มีน้ำเลี้ยงตัวดีๆก็ตีจาก แก้ไขตรงนี้ได้ น่าจะเป็นทีมที่น่ากลัวทีเดียว เพราะประวัติการเล่นในอดีตนั้น ตากเอฟซี ไม่เป็นรองใครในภาคเหนือแน่นอน

มองแล้วน่าจะผลงานดี แต่ด้วยจากขาดงบประมาณในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน จึงทำให้ทีมเหมือนเล่นตัวใครตัวมัน เรียวแรงไม่มี นักเตะบางคนมาด้วยใจ ออกเงินเองก็มาเล่น เพราะถือว่ามารับใช้บ้านเกิด น่ายกย่อง แต่สวนทางกับคำว่าอาชีพ วันไหนมีงบประมาณน้ำเลี้ยงดีมาดูทีมนี้กันใหม่ อันดับที่คาด ไม่บ๊วยก็ดีแล้ว


11.แพร่ เอฟซี(ไก่ฟ้าพญาลอ)
บ๊วย แต่กำลังพัฒนาเพราะนักเตะฝีเท้าดีหลายคนมาแล้วจากจังหวัดอื่นจะมารวมกันที่แพร่เพราะว่าทีมนี้ผู้ใหญ่ในบ้านให้การสนับสนุน ผลงานที่ไม่ดีเพราะว่าทีมขาดนักเตะที่มีประสบการณ์ เลกสองมาดูกันใหม่ น่าจะหนีบ๊วยได้

...........................
สานฝันบอลลำปาง
อังคาร 14
กรกฎา 52

รู้มั้ย?ไทยลีกเงินสะพัดเท่าไหร่ : แจกแจงรายได้ในเลกแรก

ไปอ่านเจอครับ เลยเอามาฝากกัน
"รู้มั้ย?ไทยลีกเงินสะพัดเท่าไหร่"

.............................................

ฟุตบอลไทยกำลังเตาะแต๊ะเพื่อก้าวไปสู่การเป็นลีกอาชีพเต็มตัวและเต็มรูปแบบในอนาคต ซึ่งจุดเริ่มต้นก็ย่อมจะมีปัญหา มีอุปสรรคบ้าง กระนั้นก็เชื่อว่า ถ้าทุกฝ่ายให้ความสำคัญและร่วมมือกัน ไทยลีก ก็อาจจะขึ้นไปเป็นลีกระดับท็อปของเอเชียได้

การลงทุนของบ้านเรายังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับลีกระดับโลก แค่เงินจากภาครัฐช่วยลงมาก็ตกราว 70 ล้านบาท ซึ่งต้องแบ่งแยกลงไปช่วยกันในหลายๆลีกทั้งลีกดิวิชั่น 1 ลีกฟุตซอล และลีกบอลหญิง

ฉนั้นในไทยลีกก็จะมีงบประมาณ 30 กว่าล้านบาท มีเงินสนับสนุนให้สโมสรทีมละ 6 แสนกว่าบาท ก็จิ๊บจ๊อยเหลือเกิน

ที่เหลือส่วนใหญ่ทุกทีมก็จะหาทุนมาทำกันเอง บางทีมใหญ่หน่อย มีศักยภาพสูงก็จะหารายได้เข้ามาเยอะหน่อย แต่เฉลี่ยแล้วทีมหนึ่งต้องใช้เงินอยู่ที่ 10 ล้านบาท สูงสุดในเวลาก็ตกราว 30 ล้านบาท ฉนั้นงบประมาณจากการทำทีมรวมแล้ว 100 กว่าล้านบาท

แต่ที่น่าชื่นใจสำหรับการออกสตาร์ทในปีแรกสู่ลีกอาชีพของเรา ก็คือกระแสการตอบรับจากแฟนบอล ผ่านพ้นเลกแรกแต่ละทีมมีรายได้เพิ่มเติมมาจากยอดการจำหน่ายตั๋วเข้าชม และยอดจากการขายของที่ระลึก ก็นับว่าไม่น้อยทีเดียว ตัวเลขทุกทีมรวมกันเกือบ 18 ล้านบาทเลยทีเดียว


สินค้าของทีมสโมสรเมืองทองหนองจอกยูไนเต็ด

โดยสโมสรที่ฟันรายได้มากที่สุดในเลกแรกยังเป็น ชลบุรี เอฟซี สำรวจออกมาแล้ว ยอดขายบัตร 1,678,772 บาท และขายของได้1,471,180 บาท รวมรายได้ 3,149,992 บาท จึงไม่แปลกที่ชลบุรีจะมีงบสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อตัวมาเสริมทัพจำนวนมาก

ตามหลังมากลายเป็น ราชนาวีระยอง ที่ทำรายได้มหาศาลเพราะแฟนบอลชาวระยองสนใจเข้าชมกันแน่นทุกนัดยามเล่นในบ้าน เก็บยอดได้ 1,413,700 บาท ขายของได้ 705,000 บาท รวมแล้วฟันไป 2,118,700 บาท ไม่เลวสำหรับทีมเล็กๆเช่นนี้

ทีมใหญ่อย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด ก็มีรายได้อักโขเช่นกันยอดค่าผ่านประตู 1,046,000 บาท ขายของ 919,434 บาท รวมเป็นเงิน1,965,434 บาท แม้แต่การท่าเรือไทย ที่กลับไปใช้สนามคลองเตย กระแสแฟนบอลอุดหนุนอุ่นหนาฝาคั่ง เก็บค่าเข้าชมได้916,600 บาท ขายของได้ 545,617 บาท รวมยอด 1,462,217 บาท และคาดว่าท่าเรือจะทำรายได้อีกมากในเลกสอง

ส่วนทีมอื่นสรุปยอดที่ได้รับไล่เรียงกันลงไป
บางกอกกล๊าส เอฟซี 1,312,545
บาท
พัทยา ยูไนเต็ด 1,286,598 บาท
การไฟฟ้าฯ 1,192,540
บาท
ทีโอที 1,086,300 บาท

สมุทรสงคราม 978,120
บาท

นครปฐม 764,800 บาท
ศรีราชา 687,800 บาท
บีอีซี เทโรศาสน 622,190 บาท
แบงค็อก ยูไนเต็ด 383,120
บาท
โอสถสภา 378,220
บาท

ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร 348,720 บาท
จุฬา ยูไนเต็ด 194,350 บาท

ก็ขอให้ทำรายได้เช่นนี้ตลอดไปเรื่อย และมากขึ้นๆ ไปอีก ถ้าสโมสรมีรายได้ มีทุนเข้าไปหมุนเวียน ก็จะทำให้การจัดการบริหารทีมมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ระบบฟุตบอลอาชีพก็จะได้กล้าแกร่งตามไปด้วย

Create Date : 07/7/2552
Last Update : 17:52 น

.............................................
สานฝันบอลลำปาง
อังคาร 14
กรกฎา 52

สานฝันบอลลำปาง : บทความเกียรติยศจาก ผศ.ณรงค์

สานฝันบอลลำปาง
โดย ผศ.ณรงค์ สมิทธิธรรม
[จากหนังสือพิมพ์ ฅนเมืองเหนือ (6-12 กรกฎาคม 2552)]

วัฒนธรรมใหม่ ของชาวไทยที่ทำเอาต่างชาติถึงกับตื่นตลึง คาดไม่ถึงในขณะนี้ ก็คือ กระแสฟุตบอลไทยลีก หรือไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งมาแรงเอามากๆ ใครจะไปคิดว่า เพียงแค่ไม่กี่ปี ที่เตะบอลกันแบบไทย ๆ มีคนดู หรอมแหรม แต่ทุกวันนี้ ภาพถ่ายบางมุมนั้นยังกับบรรยากาศบอลนอก...!!?

หันกลับมาดูเมืองลำปางบ้าง พี่น้องทั้งหลายคงจะรู้สึกเหมือนๆ กัน คือ มีอาการอึดอัด กั๊ดอก กันเป็นแถว ยิ่งคนที่ที่เคยอยู่ในวงการนี้แบบเต็มตัวด้วยแล้ว อาจถึงชอกช้ำระกำในหัวอก...ว่า เข้าไปโน้น
ดูบอลไป...ก็อดคิดอิจฉาจังหวัดอื่นเขาไปด้วยไม่ได้

แบบว่าลำปางบ้านเรานั้นอดีตเคยยิ่งใหญ่ในเชิงฟุตบอลในภาคเหนือเอามาก ๆ แต่เดี๋ยวนี้ตกอยู่ในสภาพง่อมเหงา...ไหงเป็นยังงั้นไปได้

ปัญหามีว่า เราจะกลับมาโอ่อ่า อย่างเดิมได้ไหม ตอบได้เลยว่า ในยุคของการบริหารจัดการ ที่มีระบบการทำงานแบบมืออาชีพ หรือแบบธุรกิจอินเตอร์นั้น สามารถทำได้ครับ

ชาวลำปางที่มีวิสัยทัศน์ และเป็นนักบริหารสมองเพชร์นั้นมีปะเล๊อะ สำคัญว่าจะมีใครโดดลงมา อย่างที่จังหวัดอื่นๆเขาทำกันสำเร็จมาแล้ว

ด้วยเหตุนี้เองจึงได้มีคนหนุ่มใจรักฟุตบอล มาก่อร่างสานฝันเป็นบันไดขั้นแรกไว้ก่อน โดยทำเว็บฟุตบอลลำปางขึ้นมา เป็นใครนั้นต้องติดตามกันต่อไป เอาเป็นว่าหนุ่มคนนี้มีฝีมือระดับเคยรับผิดชอบงานใหญ่ระดับชาติมาแล้ว ข้อสำคัญคือ หมอเป็นนักฝัน เป็นสถาปนิก และทำงานจริง

หนแรกนั้น ก็คิดว่ามาคุยกันถึงความหลัง แต่ที่ไหนได้หมอเอาจริงครับ ไม่กี่วันก็ส่งอีเมล์บอกให้ผมเข้าไปชมเว็บ http://lampangsoccer.blogspot.com จึงขอโมทนายินดี ชื่นชม และขอช่วยสานฝันมา ณ ที่นี้อีกแรงหนึ่ง

สานฝันบอลลำปาง จึงเป็นเว็บที่คนรักฟุตบอลชาวลำปางต้องเข้าไปเยี่ยมดูนะครับ แม้จะยังใหม่ เนื้อหาอาจจะยังไม่อัดแน่น แต่ก็มีสาระน่าสนใจมากเลยทีเดียว ขณะนี้กำลังรอชาวลำปาง เข้ามาช่วยกันสานฝัน โดยการส่งข้อมูล ภาพถ่ายครั้งอดีต ภาพถ่ายยุคปัจจุบัน ข่าวสด ข่าวแห้ง ในวงการ หรือถ้าจะมีน้องๆ อาสามาช่วยกันสร้างสรรค์ เพื่อปลุกกระแสฟุตบอลในเมืองลำปาง ก็ขอเชิญเข้ามาแอ่ว มาเยี่ยม มาชม ...กะแล้วกั๋น

จึงใคร่ขอทบทวนอดีตอันน่าประทับใจ สำหรับคนเกิดมาไม่ทันยุค ๕๐ ปีก่อน ได้ทราบไว้ว่า ทีมลำปาง ๑๑ ยุคนั้น สามารถเอาชนะทีมจากกรุงเทพฯ เช่น ทหารอากาศ, ธรรมศาสตร์, หวีฝ่อ, ชายสด ฯลฯ จากแฟ้มภาพคุณนิพนธ์ มณีเทศ (เว็บบอลลำปาง) นางสาวไทยเขี่ยฟุตบอล ที่สนามบุญวาทย์ ยืนกลาง(ถูกบัง) คือ อ.นคร สมบูรณ์

แกนนำสำคัญครั้งนั้นคือ อาจารย์ นคร สมบูรณ์ นักฟุตบอลทีมชาติชาวลำปางคนที่สอง ซึ่งกำลังหนุ่มฟ้อมาเป็นอาจารย์พละศึกษาที่โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๗ และนักฟุตบอลทีมชาติชาวลำปางคนแรกคือ นายแพทย์บุญสม มาร์ติน ซึ่งเป็นครูของอาจารย์ นคร นั่นเอง

ทีมชาติชาวลำปางคนที่สามรุ่นหลานศิษย์ก็คือ ภิญโญ แสงทอง อดีตนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติ ตั้งแต่ ระดับ ๑๖ ปี จนติดทีมชาติชุดใหญ่ ขณะนี้เป็นอาจารย์พละศึกษาอยู่โรงเรียนเดิมคือ บุญวาทย์วิทยาลัย
นี่คือตำนานของความเป็นเลิศในเชิงฟุตบอลเมืองนี้ ซึ่งจักเป็นมรดกทางพันธุกรรม ที่จะ ก่อเกิดทีมในฝัน เพื่อสร้างความปีติอิ่มใจให้แก่ชาวลำปางในโอกาสต่อไปข้างหน้า

ส่วนนักฟุตบอลชาวลำปางยุคใหม่ที่ได้ดิบได้ดีในระดับชาตินั้น มีอยู่อย่างแน่นอน ข่าวว่า นักฟุตบอลหญิงจาก โรงเรียนกีฬาได้ถูกเรียกไปติดทีมชาติเมื่อเร็วๆนี้ รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น คงต้องไปหาอ่านในเว็บ หรือช่วยกันหาข้อมูลมาใส่ในเว็บนะครับ

จึงขอนำเอารายชื่อนักฟุตบอลรุ่นเก่ามาเสนอในที่นี้ เพื่อให้ลูกหลานได้รับรู้ และหากว่าบ้านไดยังมีภาพถ่ายของ นักฟุตบอลรุ่นปู่ รุ่นลุง ครั้งรุ่งเรือง ก็โปรดแสกนส่งมาให้เว็บมาสเตอร์ด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง รายชื่อนักฟุตบอลรุ่นตำนานเท่าที่รวบรวมได้ในขณะนี้ มีดังนี้
บุญศรี คมสัน
ไพศาล(โกฟู่) กฤษดาธาร
ประสิทธิ์ วรกุล
โกยอร์ช
พต.ศรียนต์ วิชัยสืบ

ทองอ่อน อัชแมนมิตร
มงคล อรุณศักดิ์
จ่าเลิศ (ครูฝึกนักเรียนพลฯ)
จำนง (บ้านท่ามะโอ)
บุญเสริม บุญญาทวี

โกเส่ง แต้อัมพร
โกกุ๋ย ลิ้มสุวรรณ
โกสอน (ทำงานป่าไม้)
ณรงค์ วิชัยสืบ
ณรงค์ ฝั้นเต็ม

ณรงค์ คิดอ่าน
พิภพ ณ ลำปาง
บุญทรง สอาดอิ่ม
สุกิจ ขันธิกุล
บุญหลง ถาคำฟู

ศรีไล วงศ์แคะหล้า
พท.สมจิตร คิดเจริญ
ตระการ ไชยคำมาตร
สุพจน์ ปัญญาธรรม
สนอง จวงพุ่ม
นคร ปราโมทย์ชน
บุญเรือง ถาคำฟู
ฯลฯ

อย่าลืมชำเลียงดู เชียงใหม่ยูไนเต็ด และ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยก็แล้วกัน ปีหน้าเชียงรายขึ้นดิวิชั่น ๑ ได้แน่ เพราะเลกแรกเชียงรายชนะรวดนำเป็นจ่าฝูงดิวิชั่น ๒ ในขณะนี้
อย่าเผลอก็แล้วกัน ระวัง !!? แพร่ กับ พะเยา จะแซงลำปางเน้อ....

สานฝันบอลลำปาง : ยืดอก พกหัวใจ ไปด้วยกัน
...........................
อาจารย์ณรงค์ สมิทธิธรรม ฝากมาเผยแพร่ครับ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้

สานฝันบอลลำปาง
อังคาร 14
กรกฎา 52

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปิดฉากฟุตซอลอบจ. นัดชิงสุดมันส์


ศึกสายเลือดระหว่างโรงเรียนกีฬาลำปาง A และ โรงเรียนกีฬาลำปาง C


วินาทีแชมป์ของทีมเอฟซีแจม จากเชียงใหม่ หลังจากสู้กันถึงฎีกา ดวลจุดโทษชี้ชะตากับทีมแม่ริมการยาง จากเชียงใหม่เช่นกัน หลังจากเสมอกันในเกมส์ 8-8 หลังจากต่อเวลาพิเศษ

นัดชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2552 ได้ทีมชนะเลิศทั้งหมด 3 ทีม
แต่ก่อนจะลงรายละเอียดของผู้ชนะเลิศและรองอันดับต่างๆ และนักกีฬาดีเด่น เพื่อความรวดเร็ว จะสรุปเพียงแชมป์ 3 รุ่นไปก่อน ได้แก่
รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี คือ โรงเรียนกีฬาลำปาง A
รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี คือ วิทยาลัยเทคนิคลำปาง
รุ่นประชาชนทั่วไป คือ เอฟซีแจม (จากเชียงใหม่)

วันนี้ยังมีการแข่งขันคู่พิเศษอีกด้วยนั่นคือทีมสื่อมวลชน และทีมลำปางอาวุโส

รายละเอียดจะำนำมาเสนอต่อไป

สานฝันบอลลำปาง
อาทิตย์ 12
กรกฎา 52

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชวนไปดูบอลดิวิชั่น2 ดูบรรยากาศที่สนาม 700 ปี เชียงใหม่


โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์การแข่งขันระหว่างเชียงใหม่ ยูไนเต็ดและกำแพงเพชร เอฟซี
ที่มา : คุณ daisuke แห่งเว็บ http://www.chiangmaifc.com


บรรยากาศในสนาม 700 ปี เชียงใหม่
ที่มา : http://www.chiangmaifc.com/webboard/index.php?topic=5496.msg60682;topicseen#msg60682


เว็บนี้ส่วนใหญ่เก็บข้อมูลต่างๆ จากการเปิดหาค้นคว้าจากเว็บ หรืออย่างดีก็โทร.คุย เล่น MSN แลกเปลี่ยนทัศนะกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่เคยได้ไปดูบอลลีกในสนามจริงเลย วันเสาร์นี้มีบอลมาเตะใกล้บ้านที่เีชียงใหม่ เท่าที่ดูแล้วเป็นการแข่งขันที่เดินทางไปได้สะดวกที่สุดในตอนนี้

เชียงใหม่ ยูไนเต็ดเป็นทีมไม่ใหญ่ไม่เล็ก แข่งไป 10 นัด มีอยู่ 10 คะแนน อยู่อันดับ 9 วันเสาร์ที่ 11 กรกฎา นี้ จะทำการแข่งขันกับ กำแพงเพชร เอฟซี ที่มาเป็นทีมเยือน ที่แข่งไป 11 นัด มี 12 คะแนน อยู่ที่อันดับ 7
ดูรายละเอียดตารางการแข่งขันได้ที่นี่ http://www.fat.or.th/web/D2-table.php

เวลาแข่งขันเริ่ม 18.00 น. ที่สนามกีฬา 700 ปี เชียงใหม่
ใครอยู่แถวๆนั้นลองแวะไปดู เก็บรูป แล้วมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ

ตามความเคลื่อนไหวในเว็บไซต์ของแต่ละทีมได้ตามนี้
กำแพงเพชร FC
เชียงใหม่ United

สานฝันบอลลำปาง
ศุกร์ 10
กรกฎา 52

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันอาทิตย์นี้นัดชิงฟุตซอลอบจ. เปิดตัวเวรี่ฟุตบอลลำปาง ล่ารายชื่อร่วมสร้างสโมสรฟุตบอลลำปาง


ป้ายแบนเนอร์ที่จะนำไปติดตั้งบริเวณงาน

นัดชิงชนะเลิศ การแข่งขันฟุตซอล อบจ.ลำปางโอเพ่น ครั้งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่สนามศูนย์กีฬาล้านนา (ยิม) 1,000 ที่นั่ง สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตลำปาง (หนองกระทิง) กลุ่มเวรี่ฟุตบอลลำปาง ได้ตั้งใจว่าจะเปิดบูธรณรงค์ สร้างกระแส "พาฟุตบอลลำปางไปไทยพรีเมียร์ลีก" จะมีการแจกใบปลิว และเปิดให้ร่วมกันลงชื่อสนับสนุนการจัดตั้งสโมสรฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ 1,000 ชื่อ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ไม่เพียงเท่านั้นโครงการนี้ยังต้องการจะเก็บฐานข้อมูลเกี่ยวกับฟุตบอลลำปางไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทีมต่างๆที่มีในลำปาง สถิติการแข่งขันทีมระดับจังหวัด ฯลฯ เพราะเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานเพื่อการพัฒนาทีมที่มั่นคงต่อไป

ในเบื้องต้นได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการสำนักศึกษาฯ อบจ.ลำปาง และได้ปรึกษากับ ผอ.กอบกิจ ธรรมานุชิต แห่งโรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปางแล้ว

ผู้สนใจสามารถเข้าไปพบปะแลกเปลี่ยนกันได้บริเวณบูธ หรือหากสนใจอยากร่วมเป็นอาสาสมัครก็สามารถอีเมล์คุยกับเว็บมาสเตอร์ได้ที่ lampangsoccer@yahoo.com

สานฝันบอลลำปาง
อังคาร 7
กรกฎา 52

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กรณีศึกษา 03 : ปลาทูคะนอง สโมสรฟุตบอลสมุทรสงคราม









ภาพจาก http://www.pla2khanongfc.com

สโมสรฟุตบอลสมุทรสงคราม
มีฉายาว่า “ปลาทูคะนอง” เริ่มส่งทีมเข้าแข่งขันโปรวินเชียลลีกในปี 2548 ก่อนที่จะไต่ระดับขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ในปี 2550 ไม่เพียงเท่านั้นในปีต่อมา ยังสร้างความประหลาดใจให้กับวงการด้วยกันขึ้นชั้นไปสู่ไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งของสมุทรสงครามก็คือเครือข่ายแฟนคลับที่เหนียวแน่น อันมีจุดเริ่มจากงานเทศกาลกินปลาทู ครั้งที่ 10 พ.ศ.2550

อย่างไรก็ตาม การรวมตัวของคนที่มากขึ้นก็นำไปสู่ขัดแย้ง แต่กระนั้นคนแม่กลองกลับหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันหาทางออกร่วมกัน โดยตั้งเป้าว่า “จะให้ทีมฟุตบอล และจังหวัดสมุทรสงครามเป็นที่รู้จักของผู้คน” ซึ่งนำไปสู่การรวมตัวพูดคุยแลกเปลี่ยนวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนร่วมกันและสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันว่า “สมุทรสงครามจังหวัดไม่ใหญ่ แต่ใจเกินร้อย”

พลังของการรวมกลุ่มจึงทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่างๆพรั่งพรูออกมา ไม่ว่าจะเป็นสโลแกน “ใส่สีฟ้า เชียร์เฮฮา เชียร์ปลาทู” การจัดทำเว็บไซต์ http://www.pla2khanongfc.com ก็ช่วยประชาสัมพันธ์ความเป็นตัวตนคนแม่กลองและทีมฟุตบอลออกไป ดึงให้คนแม่กลองทั้งในจังหวัด และที่มีถิ่นฐานต่างจังหวัดสามารถรวมเข้าด้วยกันในเป้าหมายเดียวกันและยืนยันว่าปัจจุบันนี้มีสมาชิกกว่าพันคนแล้ว

แฟนคลับของแม่กลองมิได้เชียร์ไปตามยถากรรม (อย่างเช่นการมีเว็บบอร์ดที่กำหนดประเด็นต่างๆที่น่าสนใจ เช่น “ปลาทูบางกอก ปลาทูพลัดถิ่น แสดงตัวกันหน่อย อยากรู้เหมือนกันอยู่ที่ไหนกันบ้าง” “ดาราดาวรุ่ง............ปลาทูคะนอง” ฯลฯ)แต่ได้มีการพูดคุยกันเสมอตั้งแต่ก่อนที่จะมีการแข่งขันถึงวัตถุประสงค์และแนวทางของการเชียร์ที่เน้นความสนุกสนานและเสมอภาค และหลังการแข่งขันจบ ก็ได้มีการสรุปบทเรียนและนำไปสู่ระบบการจัดการความรู้ (KM)ทีมนี้จึงมีความเป็นชุมชนอย่างสูงเนื่องจากเกิดมาจากฐานความร่วมมือของท้องถิ่นอย่างชัดเจน

จุดขายอีกอย่างหนึ่งก็คือ กองเชียร์ที่ผูกมิตรกันกับทีมคู่แข่งกระทั่งเวลามีการแข่งขันกับทีมอื่นก็มักจะมีขนมติดมือไปฝากทีมตรงข้ามด้วย กิจกรรมเหล่านี้ชาวแม่กลองอ้างว่าได้ทำให้เกิดกระแสรักและภูมิใจในถิ่นกำเนิดของคนแม่กลองขึ้นมา ตั้งแต่ระดับเด็กประถมจนถึงระดับผู้สูงอายุ นอกจากนั้นยังสโมสรสมุทรสงครามยังได้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับสโมสรขึ้นมาโดยมีสัญลักษณ์เป็นปลาทูคะนอง ปลาทูแม่กลอง จนกระทั่งแฟนคลับลงขันกันสร้างมาสค็อต (mascot) ปลาทูเป็นสัญลักษณ์ท้องถิ่นประจำทีมได้อย่างมีสีสัน

ไม่เพียงเท่านั้นความเป็นชุมชนคนรักสโมสรยังนำไปสู่กิจกรรมอื่นๆอีกด้วย เช่น การไปเลี้ยงเด็กด้อยโอกาส การจัดกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ การไปปลูกป่า ฯลฯ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยังเป็นปัญหาอยู่เช่นกันก็คือเรื่องงบประมาณ ดังที่เกิดกรณีที่ประสบปัญหาผู้สนับสนุนฟุตบอลลาออก แฟนคลับก็เป็นผู้ช่วยออกค่าใช้จ่ายค่าอาหารให้แก่นักเตะ

ล่าสุดก็คือปัญหาเรื่องการขายนักเตะอย่าง คนึง บุราณสุข ที่เกิดสัญญาซ้ำซ้อนระหว่างสมุทรสงครามกับเมืองทองยูไนเต็ด และชลบุรี FC ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับไทยพรีเมียร์ลีกที่กฎกติกายังเอาแน่เอานอนไม่ได้ (ดูรายละเอียดใน "คนึงเอ่ยปากขอโทษทุกฝ่ายรับผิดเพราะเงิน" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090704_006.html)
...........
สานฝันบอลลำปาง
อาทิตย์ 5
กรกฎา 52